"กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์มุ่งมั่นให้การดูแลรักษาอย่างมีคุณภาพ สร้างเสริมชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : โรงพยาบาลจุฬารัตน์ เทพารักษ์ คุณภาพมาตรฐานโลก JCI : สอบถามข้อมูลบริการต่างๆของโรงพยาบาลได้ที่เบอร์ 02-7692900-9, 02-7389900-7, 038-500300-99 หรือ สายด่วน 1609 ตลอด 24 ชั่วโมง"

1609

1609

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

คุณประโยชน์จากผักผลไม้ที่มีสีม่วงและสีน้ำเงิน

ผักผลไม้ที่มีสีม่วงและสีน้ำเงิน
ผักผลไม้ในกลุ่มนี้จะมีสารสำคัญที่ชื่อว่า แอนโทไซยานิน (anthocyanin) ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ละลายน้ำได้ เป็นสารให้สีตามธรรมชาติที่จัดอยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ สีของแอนโทไซยานินจะเปลี่ยนไปตามสภาวะความเป็นกรด-ด่าง เป็นสารที่ให้สีตั้งแต่สีน้ำเงินเข้มหรืออาจไม่มีสีเลยเมื่อในอยู่สภาวะด่าง (pH>7) จะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเมื่ออยู่ในสภาวะที่เป็นกลาง (pH=7) และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงถึงแดงเข้มได้ในสภาวะเป็นกรด (pH<7) สารในกลุ่มแอนโทไซยานิน ที่อยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่มีอยู่ 6 ชนิดที่พบบ่อย ได้แก่ เพลาโกนิดิน (pelargonidin), ไซยานิดิน (cyanidin), เดลฟินิดิน (delphinidin), พีโอนิดิน (peonidin), เพทูนิดิน (petunidin) และ มาลวิดิน (malvidin)

ประโยชน์ของแอนโทไซยานิน
  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีการวิจัยพบว่าแอนโทไซยานินมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่า
  • ลดอาการอักเสบ
  • ช่วยปกป้องหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดได้

Save Heart Seve Life

สาธารณสุขเปิดเผยว่า "โรคหัวใจ" คร่าชีวิตคนไทยกว่า 54,530 คน เฉลี่ยวันละ 150 คน หรือชั่วโมงละ 6 คน และมีแนวโน้มที่สูงมากขึ้น โดยปัญหาโรคหัวใจเป็นสาเหตุการป่วยและเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก เพราะหัวใจเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักตลอด 24 ชั่วโมง

อาการบ่ง ชี้ว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ คือ จุก แน่น หน้าอก มีอาการจุกบริเวณยอดอกตรงกลาง มักเป็นในขณะออกกำลังกาย หลังหยุดออกกำลังกายจะดีขึ้น ถ้าอาการเจ็บหน้าอกเป็นนานเกินกว่า 5 นาที ไม่ทุเลา หรือเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ ต้องรีบพบแพทย์

ดังนั้นการดูแลสุขภาพหัวใจ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ จึงขอเสนอ โปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจ Save Heart Save Life เพื่อดูแลหัวใจที่สำคัญที่สุดของคุณ เพราะหัวใจมีดวงเดียว

กินอะไร เลี่ยงอะไร ในโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid)

โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)เป็น ความผิดปกติเรื้อรัง ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันรุกรานเนื้อเยื่อในร่างกายหลายแห่งโดยเฉพาะส่วนข้อ ทำให้เกิดการอักเสบและทำให้ข้อเสื่อม  อาการแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ไม่มีอาการ ผู้ป่วยจะรู้สึกสบายดี ส่วนระยะที่อาการกำเริบ ผู้ป่วยจะมีอาการเมื่อยล้า เบื่ออาหาร มีไข้ต่ำๆ ปวดกล้ามเนื้อและข้อ  กล้ามเนื้อและข้อเกร็ง(พบมากในช่วงเช้า) ข้อเปลี่ยนเป็นสีแดง บวม ปวด นิ่ม โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นทั้ง 2 ข้างของร่างกายสมดุลกัน มักเกิดกับข้อเล็ก  หากทิ้งไว้เรื้อรัง จะลุกลามมีผลทำลายอวัยวะอื่นๆ เช่นปอด หัวใจ เม็ดเลือด ทำให้ต่อมน้ำตาฝ่อ ตาแห้งฝืด ฯลฯ

จะรับประทานอาหารอะไรได้บ้างที่ไม่มีผลทำให้อาการกำเริบ?
อาหารที่ไม่มีผลกระตุ้นให้เกิดอาการปวดข้อ ที่มีบทความต่างประเทศแนะนำไว้ ได้แก่

ผักผลไม้..ที่ควรระวังในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง



คุณทราบหรือไม่ว่าผัก ผลไม้ที่รับประทานกันทุกวัน ซึ่งคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้สุขภาพดีนั้นมีบางชนิดกลับมีอันตรายอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นเพราะ ผัก ผลไม้เหล่านั้นมีสารพิษในตัวมันเอง ซึ่งถ้ารับประทานในปริมาณน้อยอาจจะไม่ก่อให้เกิดพิษ แต่หากรับประทานในปริมาณมากอาจจะเป็นพิษได้ หรือบางชนิดถ้ารับประทานดิบๆ ก็จะเป็นพิษ แต่ถ้าทำให้สุกหรือผ่านกระบวนการให้ความร้อนก่อน สารพิษก็จะสลายตัวได้ ผักผลไม้บางชนิดมีสารหรือแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณสูง อาจจะก่อเกิดโทษกับผู้ป่วยโรคเรื้อรังบางโรคได้ ซึ่งผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรพึงระวัง

โรคหัวใจ’คร่าชีวิตคนไทย ชม.ละ 6 คน


ปลัด สธ.เผย คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจเพิ่มขึ้น ปี 56 ยอดตายกว่า 50,000 คน เฉลี่ย 6 คน ในทุก 1 ชั่วโมง เหตุการป่วยเกือบ 100% เป็นผลมาจากโรคที่เกิดจากวิถีชีวิต ชี้ 4 โรค เป็นตัวเร่งสำคัญ "เบาหวาน-ความดัน-ไขมันในเลือด-ความอ้วน"
          นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ใน วันที่ 29 กันยายนทุกปี สมาพันธ์หัวใจโลก กำหนดให้เป็นวันหัวใจโลก (World Heart Day) เพื่อให้ทุกประเทศรณรงค์ให้ความรู้ประชาชน ตระหนักและเร่งป้องกันปัญหาโรคหัวใจ เนื่องจากเป็นสาเหตุการป่วยและการเสียชีวิตของประชากรก่อนวัยอันควร มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก
          โดยองค์การอนามัยโลกรายงานปีละประมาณ 17 ล้านคน หากไม่เร่งป้องกันแก้ไข คาดว่าในปี 2573 หรือในอีก 16 ปี จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มเป็น 23 ล้านคน โดยในปีนี้ได้กำหนดคำขวัญการรณรงค์ ว่า "ประสานด้วยใจ เดินหน้าไปกับโลกสากล เพื่อยังผลให้ หัวใจแข็งแรง" (Join the global movement for better heart-healthy choices… wherever you live,work and play#heart choices) เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมเคลื่อนไหวในหลายภาคส่วนทั่วโลก ก้าวสู่การเป็นสากล เพื่อให้ประชาชนในประเทศ มีทางเลือกที่ดีขึ้น ในการดูแลสุขภาพหัวใจ ในทุกๆ สถานที่ ทั้งในที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ 

ผมหงอก ... หัวหงอก ... ผมขาว

สีเส้นผมเกิดจากเม็ดสีซึ่งรากผมสร้างขึ้นมา ทำให้เส้นผมมีสีต่างๆตามพันธุกรรม ถ้าเม็ดสีมีมากและเข้มข้น เส้นผมจะมีสีเข้ม แต่ถ้าเม็ดสีถูกสร้างมาน้อย สีเส้นผมก็จะอ่อน ระดับของเม็ดสีของเส้นผมจะเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพของร่างกาย ธรรมชาติของสีผมมีทั้งสีดำ เช่นคนเอเชีย สีน้ำตาลและสีบลอนด์ เช่น ชาวตะวันตก สีเส้นผมจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับพันธุกรรม และสีผิวกับสีนัยน์ตา

เส้นผมสีดำนับเป็นสีที่พบมากที่สุดของคนทั่วโลก รองลงมาคือผมสีน้ำตาลซึ่งพบทั่วไปในทวีปยุโรป เส้นผมสีดำโดยทั่วไปมักจะประกอบด้วยเม็ดสีเข้มข้นน้อยกว่าผมสือื่นๆ สีดำของเส้นผมโดยธรรมชาติมีหลายเชดสี ตั้งแต่สีดำจัดคล้ายผงถ่าน ดำอ่อน ดำน้ำตาล จนถึงดำน้ำเงิน
ผมสีเทาและผมสีขาว

ยาแก้ไอ ... มีกี่แบบ ??

อาการไอเป็นกลไกการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในระบบทางเดิน หายใจ การไอจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ แต่ในบางครั้งโรคหรือยาบางอย่างกลับมีผลทำให้เกิดอาการไอมากเกินกว่าปกติ ซึ่งอาจเพียงทำให้เกิดความรำคาญหากไอไม่รุนแรงและหายได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าไออย่างรุนแรงและยาวนานอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บของระบบ ทางเดินหายใจ และอาจส่งผลถึงกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ต้องใช้ในการไอด้วย ซึ่งวิธีการรักษาอาการไอที่ดีที่สุดคือ การกำจัดที่สาเหตุของอาการไอ เช่น การเลิกสูบบุหรี่ การหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นต้น

หากกล่าวถึงยาที่ทำให้เกิดอาการไอ ยาสองกลุ่มสำคัญที่ควรรู้จัก ได้แก่

ยาลดความดันโลหิต กลุ่มเอซีอีอินฮิบิเตอร์ (ACE inhibitors) ซึ่งใช้เป็นยารักษาโรคหัวใจวายและใช้ป้องกันความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบา หวานอีกด้วย ยากลุ่มนี้มักทำให้เกิดอาการไอแห้งๆ ในผู้ป่วยร้อยละ 20 ซึ่งโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาหากไอไม่มากและผู้ป่วยทนได้ แต่หากไอมากจนทนไม่ได้อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ยากลุ่มอื่นทดแทน ผู้ป่วยที่ใช้ยาแล้วมีอาการไอไม่ควรหยุดยาเอง เนื่องจากยามีความสำคัญต่อการควบคุมความรุนแรงของโรคที่ทำการรักษาอยู่ ควรแจ้งแพทย์เพื่อทำการปรับเปลี่ยนยาที่เหมาะสมต่อไป

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

อโรมาเธอราพี (Aromatherapy)

อโรมาเธอราพี (Aromatherapy) หรือ สุคนธบำบัด คือ ศาสตร์ในการใช้น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการสกัดพืชหอม (ขอย้ำว่าต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการสกัดจากพืชเท่านั้น) เพื่อการบำบัดรักษาหลายอาการ ตั้งแต่ อาการติดเชื้อต่างๆ โรคผิวหนัง ไปจนถึงภูมิคุ้มกันบกพร่องและความเครียด มีการใช้น้ำมันหอมระเหยในยุโรปมากว่าร้อยปี และมีการใช้ในการแพทย์ตะวันออกมานานกว่าพันปี แต่ในประเทศฝรั่งเศสมีการ ใช้สุคนธบำบัดทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ และมีการวิจัยกันอย่างกว้างขวางทั่วโลกในทุกๆ ด้าน ส่วนสหรัฐอเมริกานิยมใช้สุคนธบำบัดร่วมกับการแพทย์ทางเลือกอื่นๆ ในการรักษาโรคต่างๆ

ในประเทศไทยก็มีการใช้แบบพื้นบ้านเช่น การเข้ากระโจมแก้หวัด ผู้เขียนจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเล็กเมื่อเป็นหวัดคุณแม่จะให้นั่งอยู่หน้ากาละ มังเคลือบที่มีสมุนไพรเปราะหอม หอมแดง ใบมะขาม และเทน้ำเดือดลงไปพร้อมกับเอาผ้าเช็ดตัวคลุมโปงครอบไว้ทั้งตัว ไอหอมระเหยเข้าจมูกเข้าไปบำบัดอาการหวัด สักพักเมื่อน้ำพออุ่นๆ คุณแม่ก็จะเอาน้ำนั้นรดศีรษะไล่หวัดอีกรอบ เป็นอันว่าไปโรงเรียนได้ อดหยุดอยู่กับบ้าน ความรู้ติดตัวนี้ได้เอาไปใช้เมื่อผู้เขียนได้ไป

ทองคำบริสุทธิ์ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้เต่งตึงได้ จริงหรือ?

 ทองคำ นับเป็นอัญมณีล้ำค่าตลอดกาล มนุษย์มักจะให้ความสำคัญกับอัญมณีที่มีค่าและหายากมาสัมพันธ์กับสุขภาพกาย และความงามเสมอ มีประวัติการนำทองคำบริสุทธิ์มาดัดแปลงใช้กับส่วนต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะ อย่างยิ่งใบหน้า โดยเชื่อว่าจะช่วยชะลออายุผิวพรรณตั้งแต่ครั้งยุคของพระนางคลีโอพัตรา และมีใช้ในระดับผู้นำสูงสุดอีกหลายทวีป เช่น จีน อัฟริกา รวมทั้งยุโรป แม้จะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ว่าทองคำจะช่วยชะลอความเหี่ยว ย่นของผิวหนังได้อย่างไร แต่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของทองคำได้ออกสู่ตลาดในหลายรูปแบบ ทั้งครีมทาผิว ครีมพอกหน้า รวมทั้งแผ่นทองคำเปลวบริสุทธิ์ 24 เค สำหรับพอกหน้า เราจะมาดูว่ามีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อะไรบ้างที่พอจะเชื่อถือได้ว่าทองคำมี ส่วนดีต่อสุขภาพทางกายและความสวยงาม และก่อให้เกิดอาการข้างเคียงได้หรือไม่
การนำทองคำมาใช้ประกอบอาหารและเครื่องดื่ม

รู้ให้ชัดกับ ยาแก้อักเสบ

อักเสบ มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า Inflammation ซี่งเป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดงและรู้สึกร้อน ณ บริเวณที่มีการอักเสบเกิดขึ้น ภาวะอักเสบที่รู้จักกันดี ได้แก่ ข้ออักเสบ เอ็นอักเสบกล้ามเนื้ออักเสบ รวมทั้งอาการอักเสบที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในการทำงานหรือเล่นกีฬา การใช้ยาเพื่อลดการอักเสบ ต้องใช้ยากลุ่มที่เรียกว่า “ยาแก้อักเสบ”หรือ “ANTI-INFLAMMATORY DRUG” หรือ“NSAIDs” (เอ็น-เซด ย่อมาจากคำว่า Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) โดยยาแก้อักเสบนี้ ยังนิยมใช้ลดอาการปวดที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ปวดหัว ปวดประจำเดือน ปวดฟัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รวมทั้งยังอาจใช้ลดไข้อีกด้วย ทำให้มียาประเภทนี้จำหน่ายและใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ทั้งที่เป็นยากิน ยาฉีด ยาใช้ภายนอกทั้งในรูปเจลหรือสเปรย์ โดยยาแต่ละตัวจะมีข้อบ่งใช้และวิธีการใช้ยาแตกต่างกันไป

สิ่งที่ควรคำนึงเสมอในการใช้ยากลุ่มนี้ คือ

ดีท็อกลำไส้ ล้างพิษ ให้คุณหรือให้โทษ

กระแสนิยมของการรักสุขภาพของผู้คนในยุคปัจจุบันทั้งในโลกตะวันออกและตะวันตก นั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้ประชากรมีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาว ความรู้เรื่องการล้างพิษของร่างกายมีมากมาย มีทั้งน่าสนับสนุนและน่าเป็นห่วง จึงขอนำรายละเอียดทางวิชาการและข้อคิดจากแพทย์ นักวิทยาศาสตร์มาเล่าสู่กันฟัง
ที่มาของ "สารพิษ"

ศตวรรษที่ 20 นับเป็นช่วงเวลาที่สังคมให้ความสนใจเรื่องสารพิษที่มีผลต่อสุขภาพคนเรามาก มายอย่างชนิดที่ไม่เคยมีในอดีต เนื่องจากทุกวงการไม่ว่าจะเป็นวงการแพทย์และอุตสาหกรรมทุกชนิด มีการใช้สารเคมีชนิดคิดค้นได้ใหม่ๆที่แรงขึ้น เข้มข้นขึ้น มีผลทำให้สิ่งแวดล้อมทั้งในอากาศและน้ำเกิดมลภาวะ รังสียูวีที่ตกถึงโลกมากขึ้น สังคมมีการวิจัยยาใหม่ๆ สารเคมีใหม่ๆ ไอทีแปลกใหม่และรวดเร็ว ผู้คนในสังคมมีการบริโภคทุกอย่างมากขึ้นทั้งจำนวนและชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เช่น อาหารจานด่วน ทั้งไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า โดนัท ไอศกรีม สารพัดเค้ก รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล ผู้คนใน

กินอะไร...ชะลอจอประสาทตาเสื่อม

โรคจอประสาทตาเสื่อม คืออะไร
จอประสาทตา (retina) เป็นส่วนที่อยู่บริเวณหลังสุดของตา เมื่อใช้สายตามองดูสิ่งของ แสงที่กระทบสิ่งของจะสะท้อนผ่านเข้ามายังจอประสาทตา ซึ่งจอประสาทตาจะเปลี่ยนแสงให้อยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟ้าแล้วส่งผ่านเส้น ประสาทตา (optic nerve) ไปยังสมอง ที่จอประสาทตานี้ จะมีบริเวณที่ไวที่สุดของจอประสาทตา เรียกชื่อว่า แมคูลา ลูเตีย (macula lutea) แมคูลานี้จะประกอบไปด้วยเซลล์รับแสงนับล้านๆเซลล์ที่ช่วยการมองภาพที่คมชัด ตรงส่วนกลางของภาพ หากมีการทำลายของแมคูลา การมองภาพก็จะขาดความคมชัด
โรคจอประสาทตาเสื่อม (Age-related macular degeneration (AMD)) เป็นโรคซึ่งเกิดที่บริเวณ แมคูลา ลูเตีย (macula lutea) โดยเฉพาะ ในโรคนี้จะมีการทำลายแมคูลาไปทีละน้อย โรคอาจจะลุกลามไปช้ามากในคนบางคน ก็จะใช้เวลานานมากกว่าที่จะสูญเสียการมองเห็น แต่สำหรับในบางคนการลุกลามของโรคเป็นไปอย่างรวดเร็วและอาจมีผลทำให้ตาบอด ข้างเดียวหรือทั้งสองข้างได้ โรคนี้เป็นสาเหตุหลักของตาบอดที่เกิดขึ้นในคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปในประเทศทางแถบตะวันตก
โรคจอประสาทตาเสื่อมมีกี่ชนิด

ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง...ใช้อย่างไร


โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ไม่ได้แปลว่า ผู้สูงอายุทุกคนต้องเป็นโรคความดันโลหิตสูง อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุที่อ้วน มีไขมันในเลือดสูง หรือ สูบบุหรี่ มีโอกาสเป็นโรคนี้มาก ผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงแล้ว จำเป็นต้องได้รับยาลดความดันโลหิต มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาร้ายแรงตามมา ได้แก่ ภาวะหัวใจวาย โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และหลอดเลือดสมองแตกเป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์
ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง มีหลายกลุ่ม ออกฤทธิ์ต่างๆ กันไป เช่น ยาขับปัสสาวะ ทำให้มีปัสสาวะมากขึ้น ยาชะลอการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นช้าลง ยาขยายหลอดเลือดทำให้รูของหลอดเลือดกว้างขึ้น เลือดจึงไหลได้ดีขึ้นและมีแรงดันน้อยลง

จากยากลุ่มต่างๆ นี้ แพทย์จะเลือกยาที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วยแต่ละราย มีข้อที่ควรทราบ คือ ยาขับปัสสาวะ ทำให้ผู้ที่รับประทานยานั้นเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติเพราะยาขับปัสสาวะมี ฤทธิ์ขับน้ำออกจากหลอดเลือด ทำให้ปริมาตรเลือดในหลอดเลือดลดลง ความดันโลหิตจึงลดลง ขนาดยาโดยทั่วไปคือรับประทานยาวันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า แต่ผู้ป่วยบางรายก็จำเป็นต้องรับประทานยาวันละ 2 ครั้ง ในกรณีหลังนี้ให้รับประทานยาหลังอาหารเช้าและเที่ยง ห้ามรับประทานยาหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะตอนกลางคืน และต้องลุกมาเข้าห้องน้ำตลอดคืน

ยาดม มีอันตรายหรือไม่


ในปัจจุบันยาดม ซึ่งใช้บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก หน้ามืดตาลาย วิงเวียนศีรษะ กำลังเป็นที่นิยมในท้องตลาด โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุอานามเลยวัยกลางคนขึ้นไป อย่างไรก็ตามยาดมสมัยใหม่มีการปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัยเป็นที่เตะ ตาของกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น จึงได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัย ขนาดกะทัดรัดเหมาะมือ ผลิตภัณฑ์รูปแบบนี้สร้างสรรค์เพื่อคนยุคใหม่ วัยทำงาน เนื่องจากคนยุคใหม่มักมีกิจกรรมและการผ่อนคลายหลังการทำงานในเวลาที่ค่อน ข้างจำกัด จึงมักผ่อนคลายด้วยกลิ่นบำบัด (Aromatic) ยาดมจึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่นำเสนอ นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการอดบุหรี่ก็นิยมที่จะหันมาใช้ยาดมทดแทนการสูบบุหรี่ ทำให้เกิดคำถามว่า ยาดมมีอันตรายหรือไม่

ยาแก้วิงเวียน ระวัง! อย่าใช้พร่ำเพรื่อ


อาการวิงเวียนศีรษะเป็นความเจ็บป่วยที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งสาเหตุของการเกิดอาการวิงเวียนศีรษะมีมากมายหลากหลายสาเหตุ บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยบางรายมีอาการดังกล่าวบ่อยๆ และมักไปซื้อยารับประทานเอง และเมื่อใช้บ่อยจนรู้จักยาแล้ว ก็เรียกหาและใช้ยาเหล่านั้นเป็นประจำ หรือในบางกรณี ไปพบแพทย์แล้วได้รับยาแก้วิงเวียนศีรษะ ซึ่งเมื่อรับประทานแล้วได้ผลดีก็จะนำตัวอย่างยาไปซื้อรับประทานต่อเองเป็น ระยะเวลานาน
มียาแก้วิงเวียนอยู่ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีชื่อสามัญว่า ฟลูนาริซีน (flunarizine) ซึ่งมีชื่อทางการค้าที่หลากหลายเช่น Sibelium, Fludan, Fluricin, Poli-flunarin, Liberal, Simoyiam, Sobelin, Vanid, Vertilium เป็นต้น มักมีลักษณะเป็นแคบซูลสีแดงและเทา ซึ่งยาดังกล่าวในทางการแพทย์ มีข้อบ่งใช้ในการรักษาอาการวิงเวียน (vertigo)

อันตรายของครีมหน้าขาว ที่ผสมไฮโดรควิโนน


ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ บริโภคในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย บริษัทเครื่องสำอางจึงได้ทำการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครีมที่ทำให้ผิวหน้าขาวใส  ในปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายอยู่มากมายในท้องตลาด ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีส่วนประกอบของสารสำคัญที่ทำให้ผิวขาวแตกต่างกันไป

ไฮโดรควิโนน เป็นสารเคมีซึ่งเป็นที่นิยมในการนำมาเตรียมครีมที่ทำให้หน้าขาวในอดีต เนื่องจากเห็นผลได้เร็วไฮโดรควิโนนออกฤทธิ์โดยการการยับยั้งกระบวนการสร้าง เม็ดสีของผิวหนัง หรือที่เรียกว่า เมลานิน จึงมีผลทำให้ผิวขาวขึ้นได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนนั้นควรใช้กับผู้ที่มีปัญหาฝ้า หรือรอยด่างดำจากสิวที่รุนแรงและจะต้องมีเปอร์เซ็นต์ของตัวยาที่แน่นอนระบุ อยู่ นอกจากนี้ควรใช้ในระยะเวลาที่จำกัด ไม่ควรใช้นานเกินไป และไม่ควรหยุดใช้ยาทันทีเนื่องจากอาจจะทำให้ผิวคล้ำลงกว่าเดิมได้จากการที่ ผิวหนังเร่งผลิตเซลล์เม็ดสีมาทดแทน นอกจากนี้ไฮโดรควิโนนเป็นสารที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดด ซึ่งหากทายาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนแล้วไม่ทาครีมกันแดด ฝ้าจะดำกว่าเดิมได้

กลูต้าไธโอน (glutathione) ทำให้ขาวจริงหรือ??


 กลูตาไธโอน (glutathione) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย

               ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำกลูตาไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ ผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูตาไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องมาจากกลูตาไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ในการทำให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิดอีกรูปแบบหนึ่ง โดยในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพ และประโยชน์ของกลูตาไธโอนในการทำให้ผิวขาวได้อย่างแท้จริง จึงไม่น่าแปลกใจที่กลูตาไธโอนไม่ผ่านการรับรองข้อบ่งใช้โดยองค์การอาหารและ ยาประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับทำให้ผิวขาว

เคล็ดลับดูแล `สมอง`

สมองเป็น อวัยวะสำคัญที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ แต่เมื่ออายุมากขึ้น สมองย่อมมีการเสื่อมถอยไปตามวัย ทำให้ประสิทธิภาพในการคิด จำ และทำสิ่งต่างๆ ลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น
/data/content/25885/cms/e_bcdgiqrux157.jpg
          การดูแลสมองให้มีสุขภาพดีตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดโอกาสเป็น "โรคอัลไซเมอร์" ในวัยชรา ซึ่งพบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป หากไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์ จึงควรหาวิธีป้องกัน ดังนี้
          1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอวันละ 30 นาที แนะ นำให้เต้นแอโรบิก เพราะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองดีขึ้น และกระตุ้นการทำงานของเซลล์สมอง หรือเสริมกำลังกล้ามเนื้อ หรือสร้างสมดุลของร่างกาย เช่น รำมวยจีน โยคะ และการยืนขาเดียว เป็นต้น

6 เหตุผล ทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา


/data/content/25859/cms/e_bcdgjknpqwy3.jpg
        
  ตื่นเช้าขึ้นมายังไม่ทันได้ทำอะไรก็รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรงจะทำอะไรซะแล้ว แถมยังรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็นอนเต็มอิ่ม มันเกิดจากสาเหตุอะไรกันนะ
          1. คุณไม่ได้ดื่มน้ำเพียงพอ (ต่อวัน/ต่อร่างกาย)
          เรื่องเล็กน้อยที่คุณมักมองข้ามและคิดว่ามันคงไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยดื่มทดแทนก็ได้ แต่คุณรู้ไหมว่าถ้าในหนึ่งวันร่างกายขาดน้ำเป็นปริมาณมาก จะทำให้เลือดไหลเวียนช้าลงและมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะฉะนั้นที่คุณรู้สึกเหนื่อยเพลียเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดกระจายตัว ได้ไม่เต็มที่ (ประสิทธิภาพ) หัวใจสูบฉีดเลือดทำงานได้ไม่เต็มร้อยนั่นเอง

ประโยชน์ของถั่วที่ควรรู้


/data/content/25853/cms/e_belmoqr15689.jpg

ถั่วมีหลากหลายชนิด ให้เราเลือกรับประทาน  และแต่ละชนิดก็มีประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารแตกต่างกันไป      
   ถั่วเหลือง
          เป็นพืชที่มีสารอาหารสูงที่สุดในบรรดาเมล็ดพันธุ์ทั้งหมด และสามารถนำมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถั่วงอก เต้าหู้ เทมเป้ โยเกิร์ต แป้ง นม มิโซะ และซีอิ๊วขาว ถั่วเหลืองช่วยควบคุมอาการที่เกี่ยวเนื่องกับการหมดประจำเดือนทั้งยังช่วย ป้องกัน มะเร็ง ในถั่วเหลืองยังอุดมด้วยวิตามินอีที่คอยต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินบีที่มีบทบาทในการบำรุงระบบประสาทและช่วยร่างกายต่อสู้กับความ เครียด
          ถั่วลันเตา
          เป็นถั่วที่มีมากด้วยปริมาณวิตามินบี ช่วยรักษาระดับพลังงานและสร้างเนื้อเยื่อประสาทและกล้ามเนื้อ ใยอาหารสูงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และการย่อยมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีวิตามินบี 5 ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และวิตามินซีต้านอนุมูลอิสระ
          เม็ดมะม่วงหิมพานต์

6 อาหาร-เครื่องดื่ม ไม่ควรรับประทานขณะท้องว่าง


 คุณทราบไหมว่าเครื่องดื่มหรืออาหารบางอย่าง ถ้าเรารับประทานตอนท้องว่าง อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ถึงแม้ว่าเราจะหิวมากจนอยากจะหาอะไรกินรองท้อง ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มดังต่อไปนี้

         1.กล้วย เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้ง การทำงานของหลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างยิ่ง
         2.กระเทียม เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้นเกิด โรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง

         3.ผัก การ รับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปกติ นอกจากนั้น ยังไม่ควรอาบน้ำ และออกกำลังกายด้วยเช่นกัน เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย

ยาก่อนอาหาร ยาหลังอาหาร ลืมกินยาตามเวลา อันตรายหรือไม่


ปัญหาที่มักพบเสมอเวลาจะรับประทานยา คือ ต้องรับประทานก่อนหรือหลังอาหาร และก่อนอาหารนานเท่าไหร่ หลังอาหารกี่นาที ก่อนนอนนานแค่ไหน ถ้าลืมแล้วจะทำอย่างไร 

บทความนี้จึงขอสรุปหลักการและหลักปฏิบัติที่ถูกต้องทั่วไปของวิธีการรับ ประทานยาเหล่านี้
 1. ยาก่อนอาหาร ควรรับประทานก่อนอาหาร อย่างน้อย ๓๐ นาที

ยาที่รับประทานก่อนอาหาร ควรรับประทานในช่วงที่ท้องว่าง ยังไม่ได้รับประทานอาหาร ซึ่งก็คือก่อนรับประทานอาหารอย่างน้อย ๓๐ นาที เนื่องจาก

  • ยาอาจถูกทำลายและเสียประสิทธิภาพในการรักษา เมื่อพบกับกรดปริมาณมากที่กระเพาะอาหารจะหลั่งออกมาหลังมื้ออาหาร การรับประทานยาในช่วงที่ท้องว่าง ทำให้ยาไม่ถูกทำลาย และประสิทธิภาพของยาไม่ลดลง

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

ป้องกันมะเร็งหลีกเลี่ยง `น้ำมันทอดซ้ำ`

/data/content/25906/cms/e_bchjklow2346.jpg


          จากการแถลงนโยบายของภาครัฐ การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข สุขภาพประชาชน ให้เน้นเรื่องการป้องกันโรคมากกว่าการรอให้ป่วยแล้วมาตามรักษา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่ในทางปฏิบัตินั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะมีโรคจำนวนไม่น้อยที่มีหลายสาเหตุและอีกหลายโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ แท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น หลายโรคที่มีสาเหตุจากปัจจัยภายนอกด้วย เช่น มลพิษในสภาพแวดล้อมรอบตัว การป้องกันโรคเหล่านี้ยิ่งยากหนักเข้าไปอีก โดยเฉพาะโรคมะเร็งอย่างที่รู้ๆ กัน
          นอกจากนั้นนโยบายด้านสุขภาพของรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง สาธารณสุขใหม่ทั้ง 2 ท่านทั้ง 10 ด้านในข้อที่ 3 สร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชากรไทยตลอดช่วงชีวิต โดยเฉพาะเรื่องโภชนาการและอาหารปลอดภัย มีการให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำมันทอดซ้ำซึ่งเป็นต้นตอของหลายปัญหาสุขภาพ ตั้งแต่โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันสะสมในตับและที่สำคัญคือโรคมะเร็ง
          เหตุเพราะในน้ำมันทอดซ้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำมันจากพืชหรือน้ำมันจากสัตว์ก็ตาม มีสารที่

ยาสเตียรอยด์กับสุขภาพตา


ยาสเตียรอยด์กับสุขภาพตา

ยากลุ่มคอร์ติโคสตีรอยด์หรือที่เรียกสั้นๆ ว่ากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นยาที่สังเคราะห์ขึ้นจากฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกาย มีหลายประเภท เช่น เดกซ์ซาเมทาโซน เพร็ดนิโซโลน ฟลูออโรเมทาโลน เป็นต้น
ยา ออกฤทธิ์ลดการอักเสบและกดภูมิต้านทาน โดยมีผลต่อหลายระบบในร่างกาย จึงถูกนำมาใช้รักษาอาการอักเสบในโรคต่างๆ อย่างแพร่หลาย ซึ่งรูปแบบการบริหารยามีทั้งในรูปยากิน ยาฉีด ยาพ่น ยาหยอดและยาป้าย
ใน ทางจักษุวิทยา นิยมใช้ยากลุ่มสตีรอยด์ในการรักษาการอักเสบในช่องหน้าลูกตา  เยื่อบุตาหรือกระจกตาอักเสบบางประเภท รวมทั้งการอักเสบหลังการผ่าตัด เป็นต้น
ยากลุ่มนี้มีข้อดีที่ลดการอักเสบได้ในหลายโรคโดยเฉพาะการอักเสบหรืออาการภูมิแพ้ชนิดที่เป็นรุนแรง
อย่างไรก็ตาม การใช้ยาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจทำให้มีผลข้างเคียงได้หลายประการ

“ดวงตา” กับผลข้างเคียงจากยาสเตียรอยด์

สเตีรอยด์... อันตรายจริงไหม ?


สเตียรอยด์ (Steroid) เป็นชื่อเรียกโดยย่อของกลุ่มยาที่มีชื่อเต็มว่า corticosteroid ยา กลุ่มนี้มีฤทธิ์และข้อบ่งใช้มากมาย สามารถใช้ในโรคหรือภาวะต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่สิ่งที่ทำให้ยากลุ่มนี้เป็นที่รู้จักมากที่สุดกลับเป็นผลเสียที่เกิดจาก การใช้ steroid อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนกลัวและปฏิเสธที่จะใช้ยากลุ่มนี้ ยากลุ่มสเตียรอยด์สามารถแบ่งตามรูปแบบของการใช้ยาได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอก มีตัวสเตียรอยด์ที่ใช้เป็นยาภายนอกหลายสิบชนิดด้วยกัน แต่สามารถแบ่งตามรูปแบบของยาและตัวอย่างของโรคที่ใช้ได้เป็น
  • ยาทา (ทั้งในรูปครีม โลชัน ขึ้ผึ้ง) สำหรับรักษาผื่นแพ้ ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงิน
  • ยาหยอดตา ยาป้ายตา ยาหยอดหู สำหรับรักษาภูมิแพ้หรืออักเสบที่ตาและหู
  • ยาพ่นจมูก สำหรับรักษาโรคภูมิแพ้ที่มีอาการทางจมูก ริดสีดวงจมูก
  • ยาพ่นคอ สำหรับรักษาโรคหืด ภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการหอบ
สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอกเหล่านี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ยาออกฤทธิ์เฉพาะที่ โดยไม่จำเป็นต้องกินหรือ

ฮัลโล! ปลอดภัยไหมเนี่ย


ฮัลโล! ปลอดภัยไหมเนี่ย

  มีการประมาณว่า  คนไทยจำนวน ๑ ใน ๓ ของประเทศ คือ ราว ๒๐ ล้านคน  ในทุกวันนี้ เดิน ขับรถ กินข้าว ทำงาน หรือ แม้กระทั่งตอนไปจ่ายกับข้าว เดินห้าง แล้วใช้มือถือแนบกับหู คุยไปด้วย ทำภารกิจไปด้วย

 แม้ กระทั่งเด็กๆก็มีแนวโน้วใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น  เด็กป.๑ – ป.๒ ในโรงเรียนดังๆในเมืองใหญ่กว่าครึ่งห้อง  เอามือถือไปโรงเรียน และใช้ application ต่างๆในเครื่อง

ปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการใช้ มือถือ  เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาตลอดระหว่างบริษัทผู้ผลิตมือถือ นักวิทยาศาสตร์ และผู้บริโภค  ในปี ๑๙๙๘ มีการประกาศ Vienna Resolution  ในเรื่องผลกระทบทาง

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

ระวังภัย“โรคพิษสุนัขบ้า”


          "กรมควบคุมโรค"เตือนโรค พิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ป่วยแล้วตายทุกราย โดยเฉพาะผู้เลี้ยงสุนัข พบข้อมูลผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้ากว่าร้อยละ 80 เกิดจากถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้และสุนัขของเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนกัด
          นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรค พิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ป่วยแล้วตายทุกราย ในปี 2556 ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 7 ราย ใน 6 จังหวัด (ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว เชียงราย สงขลา และศรีสะเกษ) และปี 2557 นี้ จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 27 พฤษภาคม 2557 มีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต 3 ราย อยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และสงขลา ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ที่สุนัขไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน โรคครอบคลุม (น้อยกว่าร้อยละ 80) และผู้ที่เสียชีวิตไม่ไป
พบแพทย์หลังจากถูกสุนัขหรือแมวกัดข่วน

มะละกอ ต้านอนุมูลอิสระ


มะละกอ Carica papaya L.
วงศ์ Caricaceae
ชื่อ อื่นได้แก่ มะก๊วยเทศ (เหนือ) มะกล้วยเต็ด (พายัพ) มะหุ่ง (ล้านช้าง) บักหุ่งหรือหมักหุ่ง (เลย นครพนม) สะกุยเส (แม่ฮ่องสอน) กล้วยลา (ยะลา) แตงต้น (สตูล) มะเต๊ะ (ปัตตานี) ลอกอ (ภาคใต้และมลายู) ภาษาฮินดูเรียก Papeeta

ภาษาต่างประเทศอื่นๆ เรียก Papaya, Melan Tree, Paw Paw
มะละกอ เป็นไม้ผลล้มลุก ต้นสูงประมาณ 5-10 เมตร มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง เข้ามาในหมู่เกาะฟิลิปปินส์และเอเชียราวปลายศตวรรษที่ 10 ที่ฟิลิปปินส์

อย. ห่วงผู้บริโภค แนะวิธีเลือกซื้อ เลือกใช้ผักและผลไม้ช่วงเทศกาลกินเจ ให้ถูกวิธีและปลอดภัย



อย. ห่วงผู้บริโภค แนะวิธีเลือกซื้อ เลือกใช้ผักและผลไม้ช่วงเทศกาลกินเจ ให้ถูกวิธีและปลอดภัย
อย. ห่วงผู้บริโภค แนะวิธีเลือกซื้อ เลือกใช้ผักและผลไม้ช่วงเทศกาลกินเจ ให้ถูกวิธีและปลอดภัย
         อย. แนะผู้บริโภคในการเลือกซื้อ เลือกใช้ ผักและผลไม้อย่างไรให้ปลอดภัยจากการปนเปื้อนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหรือสารพิษ ตกค้างจากยาฆ่าแมลง ในช่วงเทศกาลกินเจ หากผู้บริโภคได้รับสารพิษต่าง ๆ เหล่านี้เข้าไปในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้การทำงานของระบบอวัยวะภายในร่าง กายผิดปกติ

อย. แจง ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนขอใช้“เฟรซเซลล์” หรือผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากรกแกะในไทย



อย. แจง ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนขอใช้“เฟรซเซลล์” หรือผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากรกแกะในไทย
อย. แจง ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนขอใช้“เฟรซเซลล์” หรือผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากรกแกะในไทย
อย. แจง กรณีการฉีด “เฟรซเซลล์ สารสกัดจากรกแกะ” จากการตรวจสอบฐานข้อมูล พบยังไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยา เฟรซเซลล์ หรือผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากรกแกะกับ อย. แต่อย่างใด  เตือนประชาชน การฉีดสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดการต่อต้านจากร่างกาย ทำให้เกิดอาการแพ้สูง บางรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมเตือนมา ยังผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และแพทย์ ที่ใช้ยาฉีดที่ไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียนถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ควรคำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรมในการประกอบการ หากตรวจพบมีโทษทั้งจำและปรับ

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

ยาระบายช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือไม่?

ยาระบายเพื่อลดความอ้วน

ยาระบายหรือยา ถ่าย คือ กลุ่มยาที่มีฤทธิ์ช่วยระบาย หรือถ่ายท้อง หรือถ่ายอุจจาระ หรือถ่ายหนัก ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ในการบรรเทาอาการท้องผูก และมีบางคนใช้เพื่อลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน

ชนิดของยาระบายยา ระบายมีหลายชนิดตามกลไกการออกฤทธิ์ เช่น ยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ (stimulant laxatives) ยาเพิ่มความเหลวของอุจจาระ (saline laxatives) ยาเพิ่มกากใยไฟเบอร์ของอุจจาระ (bulk forming   laxatives) ยาสวนทวารหนัก (fleet enema) ยาเหน็บ ทวารหนัก (suppositories) เป็นต้น ยาเหล่านี้ล้วนมีผลให้เกิดการระบายบรรเทาอาการท้องผูกได้ผลดี แต่แตกต่างกันที่กลไกการออกฤทธิ์ วิธีใช้ และระยะเวลาการออกฤทธิ์
ยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่
ใน บรรดายาระบายที่ได้ยกตัวอย่างมานี้ ยาระบายชนิดที่ออกฤทธิ์ในการกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่เป็นชนิดที่ได้รับ ความนิยมมากที่สุด ทั้งใช้เพื่อบรรเทาอาการท้องผูก และใช้เพื่อลดความอ้วน ตัวอย่างยาระบายที่มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ เช่น ยาเม็ดเคลือบสีเหลืองเล็กๆ ที่มีชื่อสามัญ ทางยา "บิสโคดิล" (bisacodyl) ยาระบายที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรมะขามแขกที่มีทั้งชนิดเม็ดและชนิดชง เป็นต้น
ยาระบายช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือไม่?

กินอย่างไร เมื่อท้องเสีย

กินอย่างไร เมื่อท้องเสีย

คำกล่าวที่ว่า "กองทัพเดินด้วยท้อง" ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการกินอาหารได้อย่างดี เมื่อท้องอิ่มกิจกรรรมทุกอย่าง ย่อมขับเคลื่อนไปอย่างมีพลัง แต่ถ้า "ท้องเสีย" ขึ้นละก็ นอกจากกองทัพหยุด เดินแล้ว คนในกองทัพยังอ่อนแรงหมดกำลัง อย่าว่าแต่ออกรบปรบมือกับใครเลย ลำพังประคองตัวให้กลับมากินได้แบบเดิม ก็ไม่ง่ายแล้ว

อาการท้องเสีย

"ท้อง เสีย" บางทีเรียก "ท้องร่วง ท้องเดิน หรืออุจจาระร่วง" นั้น เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆ ไปว่ามีอาการอย่างไร เพราะผู้ที่ท้องร่วงหรือแม้แต่ผู้ที่อยู่ใกล้ๆ ก็ยังสังเกตเห็นว่าผู้นั้นเดินเข้าออกห้องน้ำบ่อยขึ้นและเริ่มหมดแรง เพราะที่ถ่ายหลายรอบมีแต่อุจจาระออกมาเป็นน้ำ หรือมีเศษอุจจาระเหลวปนเป็นจำนวนมาก ร่างกายจึงสูญเสียน้ำไปจำนวนมาก ทำให้อ่อนเปลี้ยเพลียแรง อาการท้องเสียจึงเป็นสาเหตุสำคัญต้นๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยพาสังขารตัวเองไปพบแพทย์
ในทางการแพทย์แบ่งอาการท้องเสียออกเป็น ๒ ชนิด คือ ชนิดเฉียบพลัน และชนิดเรื้อรัง

ไข่ :กินได้ทุกคนทุกวันหรือไม่

ไข่ :กินได้ทุกคนทุกวันหรือไม่

ไข่เป็น อาหารของคนมาเป็นเวลานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่นกกระทา ไข่เต่า หรือไข่จากสัตว์เล็ก เช่น ไข่ปลา ไข่ปู ไข่กุ้ง หรือแม้แต่ไข่มดแดง ไข่ที่นิยมบริโภคและมีอยู่ติดตู้เย็นกันแทบทุกบ้าน คือ ไข่ไก่ คนนิยมกินไข่ เพราะ เป็นแหล่งอาหารที่มีราคาถูก ทำเป็นอาหารได้หลายอย่างเด็กๆ ที่เริ่มหัดทำอาหารก็คงหนีไม่พ้นเมนูไข่ก่อน ไข่มีรสชาติอร่อย เก็บไว้ได้นาน ไข่เป็นอาหารที่แนะนำใช้เลี้ยงทารกและเด็กๆ เพราะไข่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โปรตีนในไข่ถือเป็นโปรตีนมาตรฐานที่นักวิชาการด้านโภชนาการนำมาใช้เป็นตัว เปรียบเทียบกับโปรตีนจากแหล่งอาหารอื่น เพราะไข่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

"กาแฟ" ให้อะไรกับคุณบ้าง

"กาแฟ" ให้อะไรกับคุณบ้าง

กาแฟ

กาแฟ จัดว่าเป็นเครื่องดื่มทางวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มานาน ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับแขกด้วยกาแฟ การเสิร์ฟมื้อว่างด้วยกาแฟ (coffee break) การดื่มกาแฟเพื่อพบปะสังสรรค์ และเป็นเครื่องดื่มที่มีอยู่ประจำในสำนักงานแทบทุกแห่ง
นอกจากนี้ วิถีชีวิตในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ การทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา กาแฟจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของเมนูมื้อเช้าสำหรับหลายๆ คน สิ่งที่คอกาแฟทั้งหลายปรารถนาที่จะได้รับทุกครั้งเมื่อจิบกาแฟสักถ้วย ได้แก่ กลิ่นอันหอมกรุ่น รสชาติแสนกลมกล่อม ตามมาด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและตื่นตัวในการทำงาน
คุณเคยถามตัวเองหรือเปล่าว่า นอกจากความพึงพอใจในกลิ่น รสชาติ และความรู้สึกตื่นตัวนั้น คุณได้อะไรจากการดื่มกาแฟอีกบ้าง
สิ่ง ที่ได้อาจไม่ใช่ผลดีเพียงอย่างเดียว หากไม่รู้จักควบคุมปริมาณการดื่มให้เหมาะสม แน่นอนว่าคุณอาจได้รับผลอันไม่พึงปรารถนาจากการดื่มกาแฟไปด้วย บทความนี้จะทำให้คุณได้ทราบว่า กาแฟ ซึ่งมีสารที่เรียกว่า "กาเฟอีน" เป็นองค์ประกอบสำคัญนั้น มีผลต่อร่างกายและอารมณ์ของเราอย่างไร ตลอดจนคำแนะนำที่ช่วยให้คุณดื่มกาแฟได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการดื่มกาแฟมากที่สุด และเกิดผลเสียน้อยที่สุด

กาเฟอีน (caffeine)

เครื่องดื่มทำให้อ้วนได้จริงหรือ

เครื่องดื่มทำให้อ้วนได้จริงหรือ

จะมีกี่คนที่คิดว่า เครื่องดื่มรสหวานเย็น หอมชื่นใจ ที่ดื่มอยู่ทุกวัน จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่เพิ่มความอ้วนให้กับเรา
มี รายงานการศึกษาจากต่างประเทศที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นับวันคนทั่วโลกจะดื่มเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับความก้าวหน้าของธุรกิจและการตลาด ทำให้มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชนิดใหม่ๆ แปลกๆ มากมายมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และในจำนวนเครื่องดื่มที่บริโภคมากขึ้น เช่น กาแฟเย็นที่มีรสหวาน มัน หอม กลมกล่อม อุดมด้วยครีมและเนย จะส่งผลต่อน้ำหนักตัวและความอ้วนได้

๑ ใน ๓ ของความอ้วน... เกิดจากเครื่องดื่มรสหวาน
มี งานวิจัยชิ้นหนึ่งสรุปว่า ๑ ใน ๓ ของความอ้วนหรือน้ำหนักของชาวอเมริกันที่เพิ่มมากขึ้น มีสาเหตุมา

กินเรื่องใหญ่ มะเร็งเรื่องเล็ก

กินเรื่องใหญ่ มะเร็งเรื่องเล็ก

ผู้อ่านหลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่คน ไทยชอบพูดกันว่า “กินเรื่องใหญ่ ตายเรื่องกลาง ตะรางเรื่องเล็ก” ซึ่งเป็นการกล่าวแบบติดตลกที่อธิบายภาพพฤติกรรมการกินของคนไทยได้ค่อนข้าง ชัดเจนว่าชอบสนุกกับการกินจนไม่กลัวตายหรือติดตะราง แต่ในความหมายลึกๆ นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจว่า การที่คิดว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่นั้นน่าจะจริง และเมื่ออ่านเรื่องนี้จบแล้ว ผู้อ่านก็อาจท่องมธุรสวาจานี้ก่อนนอนทุกคืนเป็นการเตือนสติหลังสวดมนต์ก็ได้

วลี ที่ว่า “กินเรื่องใหญ่” ถ้ามองในเชิงวิชาการแล้ว จะพบกับความจริงที่ว่า การกินดี กินไม่ดี ส่งผลต่อสุขภาพของเรามากทีเดียว รวมถึงความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง ทั้งนี้ปัจจัยหนึ่งที่ยอมรับกันแล้วว่าเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งคือ พฤติกรรมการกินอาหารและสภาวะโภชนาการ

7 วิถีการกินสู่ความอ้วน!

7 วิถีการกินสู่ความอ้วน!

จากการศึกษาวิถีการกินกับความอ้วนของกลุ่มประชาการตัวอย่าง 5,200 ราย พบว่า วิธีการกินอาหารที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับความอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกินมีอยู่ 7 แบบ หรือ 7 วิถีการกิน คือ

1. การกินตามอารมณ์ บางคนใช้การกินเป็นการระบายอารมณ์จัดการความรู้สึก เช่น ยิ่งเครียดยิ่งกิน ยิ่งเศร้าก็ยิ่งกิน ดีใจก็กินฉลอง เสียใจก็กินประชด พูดง่ายๆว่า อารมณ์แบบไหนก็กินทั้งนั้น

2. กินแต่ของสำเร็จรูป
เพราะหาง่าย อยู่ใกล้มือ ไม่ชอบกินของสด เพราะรู้สึกเหม็นเขียว ไม่อร่อย จืดชืด รสชาติไม่สะใจ ของสำเร็จรูปโดยเฉพาะฟาสต์ฟู้ดจะมีไขมัน แป้ง น้ำตาลค่อนข้างสูง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อ้วนได้หากรับประทานประจำ

3. กินแก้กลุ้ม
กังวลมากไปก็หิวบ่อย เครียดมากไปก็กินบ่อย

บุหรี่ : ยาพิษที่ทำให้ตายผ่อนส่ง


บุหรี่ : ยาพิษที่ทำให้ตายผ่อนส่ง

การซื้อบุหรี่สูบนั้นเอาเงินไปโยนทิ้งน้ำเสียยังดีกว่า
มนุษย์ เรานิยมการสูบบุหรี่มาตั้งแต่สมัยโบราณ จนในปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้สูบบุหรี่เป็นจำนวนมาก จะเห็นได้ว่าโรงงานผลิตบุหรี่ทุกแห่งทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง สามารถขายบุหรี่ได้เป็นร้อยเป็นพันล้านบาท ในเวลาเดียวกัน ก็มีผู้พยายามคัดค้านและชี้แจงเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพของ มนุษย์ จากทุกมุมโลกมาเป็นเวลาช้านาน ในประเทศไทยนั้น ตั้งแต่ผู้เขียนยังเป็นเด็ก จำได้ว่าท่านเจ้าคุณภักดีนรเศรษฐ์เคยลงโฆษณาคัดค้านการสูบบุหรี่ในหนังสือ รายเดือนบางเล่ม มีใจความว่า “การซื้อบุหรี่สูบนั้น เอาเงินไปโยนทิ้งน้ำเสียยังดีกว่า” ผู้เขียนคิดว่าท่านหมายความว่า การสูบบุหรี่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์เรา ถ้าเอาเงินค่าบุหรี่ไปโยนทิ้งน้ำยังจะดีกว่า เพราะในบางครั้ง อาจมีคนไปงมเอาเงินนั้นมาใช้ได้อีก ต่อมาเมื่อผู้เขียนเติบโตขึ้นและได้มีโอกาสมาทำงานในวงการวิทยาศาสตร์การ แพทย์ จึงได้ตระหนักว่า อันตรายของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพของมนุษย์เรานั้น มีมากมาย จนในปัจจุบันนี้ เมื่อผู้เขียงมองเห็นคนที่กำลังสูบบุหรี่ ทำให้เกิดความรู้สึกสงสารว่า คนคนนั้นกำลังนำเอาพิษภัยอันตรายให้แก่สุขภาพของตนเองโดยไม่จำเป็นเลย
พิษที่มีอยู่ในบุหรี่

ดื่มแดด...เพื่อกระดูก

ดื่มแดด...เพื่อกระดูก

ชีวิตของผู้คน เมืองร้อนอย่างพวกเรา คงหนีไม่พ้นแดดแรงที่แสนจะแผดเผาผิวกาย มันเป็นเรื่องที่เราต้องทน จุดนี้ทำให้หลายคนพยายามที่จะหลบเลี่ยงแสงแดดด้วยการอยู่เพียงในบ้านหรือที่ ทำงาน จะออกไปนอกชายคาก็ต้องกางร่ม แต่พวกคุณจะตกใจหรือไม่ หากมีคนบอกว่า "หลบแดดทำให้เราเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน" เป็นที่ทราบกันดีว่าแสงแดดนั้นอุดมไปด้วยวิตามินดี โดยวิตามินดีมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความแข็งแรงของกระดูก หากมนุษย์ได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอจะมีผลให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึม แคลเซียม ซึ่งเป็นธาตุสำคัญที่จะทำให้กระดูกมีความสมบูรณ์และพัฒนาการที่ดี 

"พวกเรามักมีค่านิยมด้านลบกับผิวดำ จึงมีคนจำนวนมากที่พยายามทำให้ผิวตนเองนั้นขาวขึ้น โดยการหลบเลี่ยงที่จะสัมผัสกับแดดโดยตรง กิจกรรมในชีวิตประจำวันจึงถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่เพียงในร่ม มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่สัมผัสกับแสงแดด ตอนเช้าขับรถไปทำงานก็จอดรถในโรงจอดที่มีหลังคามิดชิด ลงจากรถเข้าที่ทำงานก็ปิดม่านเปิดเครื่องปรับอากาศ ตกเย็นเลิกงานพระอาทิตย์ก็ตกเสียแล้ว ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดวิตามินดี เมื่อขาดวิตามินดี ร่างกายก็ดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง เกิดเป็นภาวะกระดูกพรุนตามมา สำหรับการใช้วิตามินเสริมไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตร อย่างเรา การออกแดดเพียง ๑๐-๑๕ นาที ก็ทำให้เราได้รับวิตามินดีเพียงพอในแต่ละวันแล้ว" รองศาสตราจารย์นายแพทย์สมพงษ์ สุวรรณวลัยกร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าว แสง แดดเป็นสิ่งจำเป็นกับทุกชีวิตบนโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากพวกเราจะเดินกลางแดดบ้าง แม้จะร้อนแต่ก็คุ้ม เมื่อทำให้เราห่างไกล "โรคกระดูกพรุน"

ข้อมูลสื่อ

327-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 327
ที่มา : หมอชาวบ้าน
ภาพประกอบจาก Internet 

โรคปวดศีรษะจากความเครียด

โรคปวดศีรษะจากความเครียด


โรคปวดศีรษะจาก ความเครียด เป็นสาเหตุที่พบได้มากที่สุดของผู้ที่มีอาการปวดศีรษะ มักจะมีอาการปวดศีรษะต่อเนื่องนานเป็นวันๆ จนถึงเป็นสัปดาห์ หรือเป็นแรมเดือน โดยจะปวดพอรำคาญ หรือทำให้รู้สึกไม่สุขสบาย และจะปวดอย่างคงที่ ไม่แรงขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่ปวด จัดว่าเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด แต่จะเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง
ชื่อภาษาไทย
โรคปวดศีรษะจากความเครียด โรคปวดศีรษะแบบตึงเครียด
ชื่อภาษาอังกฤษ
Tension-type headache (TTH), Tension headache, Muscle contraction headache, Psychogenic headachen
สาเหตุ
อาการ ปวดศีรษะของผู้ป่วยโรคนี้เป็นผลมาจากมีการเกร็งตัว ตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและใบ

โรคร้ายสะสมจากการบริโภค

โรคร้ายสะสมจากการบริโภค รู้ทันป้องกันได้

โรคหลอดเลือดหัวใจโรคจากความอ้วนโรคหลอดเลือดสมอง
ไขมัน ผิดปกติเบาหวานความดันเลือดสูงโรคจากบุหรี่โรคหลอดเลือดหัวใจโรคจากความอ้วน โรคหลอดเลือดสมองไขมันผิดปกติิเบาหวานความดันเลือดสูงโรคจากบุหรี่โรคหลอด เลือดหัวใจโรคจากความอ้วนโรคหลอดเลือดสมองไขมันผิดปกติิเบาหวานความดันเลือด สูงโรคจากบุหรี่โรคหลอดเลือดหัวใจโรคจากความอ้วนโรคหลอดเลือดสมองไขมันผิดปกติเบาหวานความดันเลือด
โรคร้ายแห่งการสะสม คือโรคที่เกิดจากการสะสมของอาหารที่กินเกิน (เพราะกินมากไปจนร่างกายใช้ไม่หมด) ความเครียดเกิน    สารพิษจากสิ่งแวดล้อมที่มากเกิน เป็นต้น ซึ่งเกินกว่าร่างกายขับถ่ายออกได้หมด ทำให้เกิดการสะสม เช่น สะสมในหลอดเลือดจน   ตีบ จนตัน หรือสะสมในเซลล์ อวัยวะต่างๆ จนเกิดความผิดปกติของการทำงานของเซลล์ และอวัยวะต่างๆ

โรคร้ายแห่ง การสะสม (พอกพูน) ได้แก่ เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันผิดปกติ โรคที่เกิดจากการ

กินอย่างไรเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน

กินอย่างไรเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน

กินอย่างไรเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน

หลาย คนคงเคยได้ยินหรือได้เห็นมาว่า เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นอาจมีปัญหาเรื่องตัวเตี้ยลง หลังค่อมจนเงยไม่ขึ้น ขาโก่งงอ หรือกระดูกหักง่าย ต้องระวังไม่ให้หกล้ม อาการเหล่านี้เป็นผลเกี่ยวเนื่องจากภาวะกระดูกพรุน คงไม่มีใครอยากมีอาการเช่นนี้ เราจึงควรมาเรียนรู้และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะกระดูกพรุนกันเถอะ

โลหิตจาง จากภาวะขาดธาตุเหล็ก

โลหิตจาง จากภาวะขาดธาตุเหล็ก

โลหิตจาง (เลือดจาง) หมายถึงภาวะที่ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ทำให้มีอาการซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีสาเหตุได้หลายประการ
สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในบ้านเราก็คือภาวะขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญอันหนึ่งสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดงของร่างกาย

ภาวะนี้สามารถป้องกันและแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยการกินอาหารที่ถูกต้อง และการเสริมบำรุงด้วยยาที่เข้าธาตุเหล็ก (ยาบำรุงโลหิต)

♦ ชื่อภาษาไทย โลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็ก, เลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก
♦ ชื่อภาษาอังกฤษ Iron deficiency anemia
♦ สาเหตุ เกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่ๆ ดังนี้

ข่าวดีสำหรับนักเรียน

 เด็กอายุ 9 - 13 ปี สามารถรับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV เพียง 2 เข็มเท่านั้น เพราะวัคซีนนี้จะได้ประสิทธิภาพดีที่สุดกับกลุ่มตัวอย่างที่อายุ 9-26 ปี และเป็นผู้ที่ไม่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 บางปะกง โทร 038-500-300 ต่อ แผนกการตลาดค่ะ

เส้นประสาทมือถูกบีบรัด

        ถ้าอยู่ๆ รู้สึกมีอาการปวดหรือชาปลายมือ แล้วสังเกตได้ชัดเจนว่า เป็นเฉพาะที่นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางซีกที่อยู่ติดกับนิ้วกลาง ส่วนนิ้วก้อยและนิ้วนางซีกที่อยู่ติดกับนิ้วก้อยไม่มีอาการผิดปกติ ก็ให้คิดถึงโรคเส้นประสาทมือถูกบีบรัด
        โรคนี้มีสาเหตุได้หลายอย่าง สามารถรักษาด้วยการใช้ยา และถ้าเป็นรุนแรงก็จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ก็จะช่วยให้หายได้


ชื่อภาษาไทย เส้นประสาทมือถูกบีบรัด, โรคคาร์พัลทูนเนล
 
ชื่อภาษาอังกฤษ Carpal tunnel syndrome, CTS
 
สาเหตุ
        เส้นประสาทมือ (median nerve) ซึ่งเลี้ยงบริเวณนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางซีกที่ติดกับนิ้วกลาง เมื่อลงมาที่ข้อมือ จะวิ่งผ่านช่องเล็กๆ ระหว่างกระดูกข้อมือกับแผ่นพังผืดเหนียวที่อยู่ใต้กระดูกข้อมือ (เรียกว่า “ช่องใต้กระดูกข้อมือ” (carpal tunnel))
คำบรรยายภาพ
เส้นประสาทมือที่เลี้ยง ๓ นิ้วครึ่งจากนิ้วหัวแม่มือ (วิ่งผ่านช่องใต้กระดูกข้อมือ)

5 คาถาเท่าทันสื่อ

      /data/content/25719/cms/e_acdjklpwx468.png
          คุณรู้ไหมว่าการใช้ชีวิตประจำวันนั้น "ถูกครอบงำด้วยสื่อ" ไม่ว่าวันนี้จะไปไหน จะดูหนังเรื่องอะไร จะไปกินอะไร ก็ต้องดูสื่อ หรือแม้แต่ของที่เราเลือกซื้อ เพลงที่เราชอบฟัง ก็เพราะดูและฟังบ่อยๆจากสื่อ ใครหลายๆคนจะรู้สึกว่าตัวเองดูดีหรือไม่ก็เทียบกับภาพในสื่ออีกนั่นแหละแล้ว เราจะเท่าทันสื่อได้อย่างไรกันละ ไปดูคาถา 5 ข้อนี้