![]() | นายแพทย์วิรุณโทณะวณิกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มายาวนานกว่า 30ปีและเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการฝังแร่เพื่อรักษามะเร็งของต่อมลูกหมาก มากว่า 17 ปี จากศูนย์รักษามะเร็งด้วยรังสีคริสเตียน่าแคร์ มลรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากในปัจจุบันมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การให้ฮอร์โมน การฉายรังสี และการผ่าตัด แต่วิธีการรักษาดังกล่าวก่อให้เกิดมีผลข้างเคียงตามมาและทำให้คุณภาพชีวิต หลังการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร เช่น กรณีการฉายรังสีจะทำลายสมรรถภาพทางเพศลงไปประมาณ 50% หรือ การผ่าตัด จะทำลายสมรรถภาพทางเพศไปกว่า 50%หรือทั้งหมดและยังก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และยังต้องใช้เวลาพักฟื้นอยู่หลายอาทิตย์ |
“การรักษาโดยการฝังแร่กัมมันตภาพรังสี ให้ผลการรักษาเท่าเทียมกับการผ่าตัด แต่ผู้ป่วยไม่ต้องผ่าตัดไม่ต้องฉายแสง ไม่มีแผล ไม่เจ็บตัวมาก และที่สำคัญคือ มีผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศน้อยกว่าการผ่าตัดและฉายแสง และไม่มีผลต่อการกลั้นขับถ่าย ปัสสาวะ วิธีนี้จึงเป็นที่นิยมมากในสหรัฐ”
คุณหมอวิรุณ กล่าวว่า การรักษาด้วยวิธีการนี้ เป็นการฝังเม็ดแร่ เพื่อเป็นต้นกำเนิดของรังสี คล้ายกับการเอ็กซเรย์ เพื่อให้รังสีที่แผ่ออกมาทำลายเซลล์มะเร็งในต่อมลูกหมาก โดยไม่กระทบกระเทือนอวัยวะใกล้เคียงอื่นๆดังนั้นโอกาสแทรกซ้อนที่รังสีจะไป ทำลายอวัยวะปกติรอบๆต่อมลูกหมากไม่มี จึงไม่มีความเสี่ยงสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะโรคหัวใจ หรือความดันผิดปกติต่างจากวิธีการรักษาด้วยการฉายแสง หรือ การผ่าตัด ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเสียเลือดมาก
สำหรับเม็ดแร่ที่ฝังเข้าไปในต่อมลูกหมาก เพื่อรักษามะเร็งนั้น คุณหมอวิรุณ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีเม็ดแร่ 3 ชนิด แต่ที่มักใช้กันอยู่มี2 ชนิด คือ เม็ดแร่ไอโอดีน-125 และเม็ดแร่พาเลเดียม-103 ซึ่งเม็ดแร่ของทั้งสองชนิดนี้จะมีความต่างกันที่ค่าครึ่งชีวิต (Half - Life) หรือ เวลาที่ใช้ไปจนตัวแร่จะสูญสิ้นกัมมันตภาพรังสี
โดยเม็ดแร่รังสีไอโอดีน-125 มีลักษณะเปลือกภายนอกทำจากโลหะไทเทเนียม ซึ่งไม่ผลต่อภาวะกรด ด่าง ต่อของเหลวในร่างกายคนเรา ภายในบรรจุด้วยสารไอโอดีน-125 ซึ่งเม็ดแร่ชนิดนี้จะมีค่าครึ่งชีวิตยาวกว่าจะสูญสิ้นประมาณ 1 ปี ขณะที่เม็ดแร่พาเลเดียม-103 ลักษณะภายนอกจะเหมือนกับแร่งรังสีไอโอดีนทุกประการ เพียงแต่ต่างกันที่ค่าครึ่งชีวิตของสารตัวนี้อยู่ได้เพียง 17 วัน และยังมีราคาสูงกว่าแบบแรก 2-3 เท่า
“เม็ดแร่รังสีทั้งหมดจะสั่งนำเข้ามาจากสหรัฐฯ จึงต้องใช้เวลาชีวิตของแร่รังสีที่มีชีวิตยาว เพื่อให้อยู่ได้นานในไทยเราจึงจำเป็นต้องใช้เม็ดแร่รังสีไอโอดีนในการฝัง เพื่อรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก”
คุณหมอวิรุณ ยังอธิบายถึงวิธีการฝังแร่ด้วยว่าในขั้นแรกจะเริ่มจากการวัดขนาดและหา ตำแหน่งของต่อมลูกหมากก่อน โดยการอัลตร้าซาวด์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้น จึงใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อกำหนดตำแหน่งของเม็ดแร่รังสีและตำแหน่งเข็ม เพื่อให้ต่อมลูกหมากได้รับปริมาณรังสีเทาที่แพทยต์ ้องการ โดยการใช้เครื่องมือยิงแร่หรือปืนมิกเข้าไปที่ตำแหน่งตามโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่กำหนดไว้ ซึ่งทำให้มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด
“หลังจากฝังแร่ไปแล้วมะเร็งจะตายภายในระยะเวลาหลัง 3-6 เดือน จากนั้นจึงติดตามด้วยการเจาะเลือดหาค่า PSA ซึ่งค่าจะต้องต่ำลงไปเรื่อยๆ หลังได้รับการฝังแร่ เพราะมะเร็งเริ่มตายและสุดท้ายค่า PSA จะลงเหลือประมาณ 0.2หรือ 0.1 เทียบกับคนปกติจะมีค่าไม่เกิน 4ng/mLและส่วนใหญ่เมื่อผ่านไป 3 ปี จะหายขาด”
คุณหมอวิรุณ ให้คำแนะนำด้วยว่า ในชายที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ควรเจาะเลือดหาค่า PSA ตั้งแต่อายุ 40 ปีทุกๆ ปี หากพบว่ามีค่าสูงขึ้นถึง 2.5 ng/mL ก็ควรได้รับการตรวจถี่ขึ้นเป็นปีละ 2 ครั้ง และในผู้ชายทั่วไปที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เมื่อไปสุขภาพประจำปีควรตรวจหาค่าPSA ด้วย เพราะเป็นโรคเฉพาะที่เกิดกับเพศชาย และเพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงการใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง เช่น เลิกสูบบุรี่ กินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง เป็นต้น
“การฝังแร่” จึงเป็นทางเลือกใหม่ของการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติรวมทั้งประเทศไทยเพราะถือว่ามีประสิทธิภาพสูง สุดและหายขาดได้หากรีบรักษาในระยะเริ่มแรก แต่ถ้าตรวจพบช้ารักษาไม่ถูกวิธีก็เป็นเหตุให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมและมะเร็ง แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆจนยากแก่การรักษา
นายแพทย์วิรุณ โทณะวณิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์รักษามะเร็งด้วยรังสีคริสเตียน่าแคร์ มลรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา บินตรงกลับมาเพื่อให้คำปรึกษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 เทพารักษ์ กม 14.5
ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และขอคำปรึกษาได้ที่ Call Center 1609 หรือ 085-111-2095 Urologist Consult โทร 02-769-2900 ติดต่อแผนกทางเดินปัสสาวะ